เก็บขิงตากแห้งไว้ทำเป็นชาสมุนไพรด้วย เครื่องแพ็คสูญญากาศ

การทำชาสมุนไพรไว้ดื่มเองที่บ้านเป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากนิยมทำในปัจจุบันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากกระแส หรือเทรนด์รักสุขภาพที่กำลังมาแรง และพืชหลายๆ ชนิดที่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรก็เป็นสิ่งที่หาได้ง่าย ทั้งยังเป็นการเพิ่มเครื่องดื่มยามว่างทีมีประโยชน์ช่วยลดการบริโภคน้ำตาลจากน้ำอัดลมหรือน้ำหวานนานาชนิดได้อีกด้วย และขิงก็เป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณน่าสนใจและสามารถนำมาใช้ทำเป็นชาสมุนไพรได้อีกด้วย นอกเหนือจากการรับประทานสด วิธีทำก็ไม่ยาก เพียงแต่ในการเก็บรักษา จะต้องพิถีพิถัน เนื่องจากง่ายต่อการเกิดเชื้อรา ซึ่งในเรื่องนี้เราสามารถใช้ เครื่องแพ็คสูญญากาศขนาดเล็ก ในการบรรจุเก็บเอาไว้ใช้งานได้

วิธีการทำขิงแห้งเพื่อเก็บเอาไว้ใช้ในการชงเป็นชาสมุนไพร ทำได้ไม่ยาก เพียงนำเอาขิงสดที่แก่สักหน่อย มาฝานเป็นแว่นบางๆ นำไปตากในที่ร่มที่อากาศถ่ายเทสะดวกให้แห้งประมาณ 2-3 วัน ให้แห้งสนิทก็สามารถเก็บเอาไว้ใช้ชงเป็นชาได้แล้ว แต่ในการเก็บ เพื่อป้องกันปัญหาจากเชื้อรา เราควรใช้ เครื่องซีลสูญญากาศ เพราะหลังจากที่มันแห้งดีแล้ว หากเจอความชื้นในอากาศ ก็อาจเกิดเชื้อราขึ้นได้ การเก็บวิธีนี้ช่วยเราได้เป็นอย่างดี

สำหรับชาขิงนั้นมีสรรพคุณที่ไม่ต่างจากขิงสดมากนัก สามารถช่วยขับลม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้อาการท้องอืด บำรุงธาตุ ช่วยในการย่อย และสามารถลดความดันโลหิตได้ด้วย เวลาใช้ก็เพียงแกะออกมาจากซอง ใส่แว่นขิงแห้งลงไปในกาหรือแก้ว เทน้ำร้อนลงไปก็ใช้ดื่มเป็นชาสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมและมีรสเผ็ดอ่อนๆ ข้อดีของขิงตากแห้งก็คือสามารถเก็บเอาไว้ได้นานกว่าขิงสด ที่เน่าเสียได้ง่าย แต่ยังมีสรรพคุณดีเหมือนเดิม

การทำชาขิงทำได้ไม่ยากทำเองได้ที่บ้าน และเรายังสามารถปรับปรุงรสชาติให้ดีขึ้นด้วยการเติมน้ำผึ้งเพื่อให้รสหวาน และเติมมะนาวกับเกลือลงไปอีกเล็กน้อยทำให้ได้ชาที่รสกลมกล่อมน่าดื่มยิ่งขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งหากต้องการทำชาขิงเอาไว้ชงดื่มก็ควรบรรจุด้วย เครื่อแพ็คสูญญากาศ จะเก็บได้นานขึ้นและคงคุณค่าสรรพคุณของขิงเอาไว้ได้เป็นอย่างดี