โทรศัพท์มือถือเก่าตกรุ่นอย่าพึ่งทิ้ง เก็บไว้เป็นเครื่องฉุกเฉินได้ ด้วย เครื่องแพ็คสูญญากาศ

ทุกวันนี้เราเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่กันเร็วมาก จากสถิติการใช้งานในปัจจุบันพบว่า ระยะเวลาในการใช้งานของโทรศัพท์มือถือแต่ละเครื่องลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉลี่ยจะเหลือไม่เกินเครื่องละ 1 ปีเท่านั้น ทั้งนี้เกิดจากการที่มีโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจออกสู่ตลาดเป็นประจำ ผู้ผลิตต่างแข่งขันกันออกโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกันเพื่อครอบครองตลาด ทำเอาผู้บริโภคยิ้มหน้าบาน เพราะสามารถหาซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ฟังชั่นน่าใช้ได้บ่อยๆ แถมมีแนวโน้มเรื่องราคาที่ต่ำลงเป็นอย่างมากเนื่องจากการแข่งขัน... แต่ทีนี้สิ่งที่ตามมาเมื่อเราเปลี่ยนโทรศัพท์ก็คือ เครื่องเก่าที่เราเคยใช้ ต้องถูกทอดทิ้งเอาไว้ไม่ได้ใช้งาน นานไปแน่นอนว่ามันก็ต้องเสียกลายเป็นขยะ ซึ่งขอบอกว่ามันเป็นขยะประเภทขยะอันตรายไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมเสียด้วย บางคนอาจหาทางออกด้วยการขายเป็นเครื่องมือสอง แต่ก็ต้องทำใจหน่อย เพราะมันคงจะขายได้ราคาไม่ดีนัก ก็อย่างที่บอกว่าโทรศัพท์เดี๋ยวนี้รุ่นใหม่ออกเร็วมาก ราคาเครื่องมือสองจึงลงแบบค่อนข้างแรง จนหลายๆ คนไม่อยากขาย... อย่ากระนั้นเลย หากยังตัดใจขาย หรือแจกจ่ายให้คนอื่นเอาไปใช้ไม่ได้ ขอแนะนำให้เก็บเอาไว้ ไม่แน่ อาจเกิดความจำเป็นต้องนำกลับมาใช้งาน ในกรณีโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเราเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็น ตกน้ำ หาย หรือหน้าจอแตก ฯลฯ. แต่การเก็บเราก็ต้องเก็บให้ถูกวิธี เพื่อให้มันอยู่ในสภาพดีและน่าใช้งาน ซึ่งเรื่องนี้ เครื่องแพ็คสูญญากาศขนาดเล็ก ก็สามารถช่วยเราได้
การเก็บโทรศัพท์มือถือเก่าเอาไว้ ก่อนอื่นให้ชาร์จแบตเตอรี่เอาไว้สักประมาณ 80% ก่อนจะถอดออกจากเครื่อง ห้ามคาถ่านไว้ในเครื่องเด็ดขาด เพราะเกิดปัญหาการลัดวงจร หรือแบตเตอรี่เสื่อมได้ ให้แยกออกจากกัน จากนั้นเอาไปเก็บเอาไว้ด้วย เครื่องซีลสูญญากาศ ซึ่งการเก็ยแบบนี้สามารถป้องกันโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี ทั้งจากฝุ่น ความชื้น ที่จะทำให้โทรศัพทืเสียหาย และทุกเดือนก็นำออกมาชาร์จสักครั้ง หรืออาจจะ 3 เดือนครั้งก็ได้ แต่ควรชาร์จเสมอเพื่อให้มันยังมีสภาพสามารถนำมาใช้งาน
การเก็บด้วย เครื่องแพ็คสูญญากาศ และการนำออกมาชาร์จปะจุไฟเสมอจะช่วยให้โทรศัพท์เครื่องเก่าของเราอยู่ในสภาพพร้อมใช้ สามารถนำมาใช้งานได้ในยามฉุกเฉินจำเป็น หรือ เมื่อนำไปขาย หรือมอบให้กัยคนอื่นใช้มันก็ยังอยู่ในสภาพดี